ขั้นตอนการปลูกข้าวโพดอ่อน
	การเตรียมดินจะต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี และมีค่าปฎิกิริยาตั้งแต่ pH 5.5-7.0 การปรับปรุงดินและบำรุงดิน - ใส่ปูนในกรณีที่ดินเป็นกรด - ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ จะช่วยให้โครงสร้างของดินดีขึ้น ชุ่มน้ำและระบายน้ำได้ดี เตรียมพื้นที่ปลูกโดยขุดดินหรือพรวนดินให้ร่วนโปร่ง และมีความลึกประมาณ 25 เซนติเมตร แล้วยกร่องเป็นลูกฟูกสูง 25 เซนติเมตร ให้ร่องระบายน้ำได้ ใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักสูตร 20-20-0 หรือ 16-20-0 รองก้นหลุมเพื่อปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย ระยะปลูก 50 x 50 เซนติเมตรเช่นกัน ปลูกโดยหยอดเมล็ดพันธุ์ 4-5 เมล็ดต่อหลุม เมื่อปลูกเสร็จให้รีบรดน้ำหรือให้น้ำทันที   การให้น้ำ ขณะที่ข้าวโพดยังเล็ก ให้น้ำทุก 2-3 วัน เมื่อต้นสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร หรือสูงประมาณหัวเข่า ให้น้ำทุก 5-7 วัน ต่อจากนั้นให้น้ำเมื่อดินในแปลงเริ่มแห้ง การถอนแยก เมื่อข้าวโพดอายุได้ 15 วันให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกให้เหลือหลุมละ 3 ต้น การใส่ปุ๋ย ในช่วงข้าวโพดมีอายุ 15-20 วัน จะช่วยกำจัดวัชพืชเหมือนกับมีการพรวนดิน การถอดยอด เมื่อข้าวโพดมีอายุประมาณ 38 วัน หรือเมื่อมีใบจริงครบ 7 คู่ ให้ทำการถอดยอดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผสมเกสร เพราะจะทำข้าวโพดฝักอ่อนจะมีคุณภาพด้อยลง นอกจากนี้การถอดยอดยังช่วงเร่งให้สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น และยังช่วยให้ผลผลิตข้าวโพดฝักอ่อนเพิ่มขึ้นด้วย การถอดยอดเป็นเทคนิคสำคัญที่เกษตรกรไม่ควรละเลยเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี เก็บเกี่ยว เมื่อต้นข้าวโพดมีอายุประมาณ 45-50 วัน ควรเก็บเกี่ยว 2 ฝักต่อต้น เกษตรกรไม่ควรเก็บฝักที่ 3 เนื่องจากฝักมักจะไม่สมบูรณ์ ไม่ได้คุณภาพส่งออก การรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว เมื่อเก็บฝักข้าวโพดฝักอ่อนแล้วควรรีบนำเข้าที่ร่ม หรือโรงเรือนที่มีการระบายอากาศที่ดี และควรนำมาลอกเปลือกออกทันทีหลังการเก็บเกี่ยว การปอกเปลือกข้าวโพดอ่อน ต้องกรีดไม่ให้เกิดบาดแผล

ขั้นตอนการนำเข้า

ชื่อไทย ข้าวโพดอ่อน
ชื่อสามัญ BABY CORN
ชื่อวิทยาศาสตร์ Zea mar
ชื่อวงศ์ Poaceae(Gramineae - Grass family)
สรรพคุณ มีคาร์โบไฮเดรด ใช้เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร หัวใจ ปอด ช่วยให้เจริญอาหาร

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

คุณค่าทางโภชนาการ ต่อ 100 กรัม

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -